
บ้าน คือหนึ่งในความฝันของใครหลายคน แต่การจะได้บ้านที่สมบูรณ์แบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ และการทำความเข้าใจในรายละเอียดแต่ละขั้นตอนอย่างถี่ถ้วน
หลายคนอาจสงสัยว่าขั้นตอนการสร้างบ้านตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการส่งมอบนั้นต้องมีอะไรบ้าง และมีจุดไหนที่เจ้าของบ้านมือใหม่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ บทความนี้ ALVIS ขอพาคุณไปรู้จักขั้นตอนการก่อสร้างบ้านที่ได้มาตรฐาน ดูว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง แต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดอย่างไร เพื่อให้การสร้างบ้านในฝันเป็นไปอย่างราบรื่น และมั่นใจได้ถึงคุณภาพที่ดี
ก่อนเริ่มสร้างบ้าน ต้องเตรียมอะไรบ้าง
ก่อนเริ่มขั้นตอนการสร้างบ้าน สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องให้ความสำคัญคือการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ เพื่อช่วยลดปัญหาและทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น โดยสิ่งที่ควรเตรียมมีดังนี้
1. เตรียมที่ดินสำหรับก่อสร้าง
ที่ดินที่เหมาะสมคือจุดเริ่มต้นของขั้นตอนการทำบ้านที่ดี เจ้าของบ้านควรตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น โฉนดที่ดิน หรือเอกสารการครอบครอง เพื่อป้องกันปัญหาข้อพิพาทในอนาคต นอกจากนี้ควรพิจารณาทำเลและสภาพพื้นที่ เช่น ความแข็งแรงของดิน ระบบสาธารณูปโภค น้ำ ไฟ ถนน รวมถึงสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ว่าตอบโจทย์การอยู่อาศัยในระยะยาวหรือไม่
2. วางแผนงบประมาณและการจัดการเงิน
งบประมาณเป็นหัวใจสำคัญของทุกโครงการสร้างบ้าน เจ้าของบ้านควรกำหนดวงเงินที่พร้อมใช้และแบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน ทั้งค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงช่าง ค่าดำเนินการขออนุญาต ค่าตกแต่งภายใน ไปจนถึงงบสำรองสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน การจัดการเงินที่รอบคอบจะช่วยป้องกันไม่ให้งบประมาณบานปลาย และทำให้ขั้นตอนการสร้างบ้านดำเนินไปอย่างมั่นคง
3. เลือกแบบบ้านและจัดทำแบบก่อสร้าง
แบบบ้านถือเป็นภาพรวมของความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน ควรเลือกแบบที่เหมาะสมกับที่ดิน งบประมาณ และจำนวนสมาชิกในครอบครัว โดยอาจเลือกสไตล์บ้านยอดนิยมอย่างแบบบ้านโมเดิร์นสำเร็จรูปที่ผู้รับเหมามีไว้อยู่แล้ว หรือสั่งออกแบบใหม่ตามสไตล์ที่ต้องการ เมื่อได้แบบที่ลงตัวแล้ว ควรให้สถาปนิกหรือวิศวกรที่มีใบอนุญาตทำการออกแบบและจัดทำแบบก่อสร้างอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานจริง และใช้ประกอบการขออนุญาตก่อสร้าง
4. การขออนุญาตก่อสร้างและข้อกำหนดทางกฎหมาย
ก่อนเริ่มขั้นตอนการสร้างบ้าน เจ้าของบ้านจำเป็นต้องยื่นขออนุญาตกับหน่วยงานท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล หรือสำนักงานเขต เพื่อให้การก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงตรวจสอบข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เช่น พื้นที่ว่างรอบบ้าน ความสูงของตัวอาคาร หรือระยะร่นจากถนนและที่ดินข้างเคียง การดำเนินการอย่างถูกต้องในขั้นตอนนี้ จะช่วยป้องกันปัญหาด้านกฎหมายที่อาจตามมาในอนาคต
10 ขั้นตอนหลักของการสร้างบ้านมีอะไรบ้าง?

เจ้าของบ้านควรทำความเข้าใจขั้นตอนการสร้างบ้านด้วยตัวเองอย่างครอบคลุม เพื่อให้รู้รายละเอียดของการก่อสร้าง สามารถติดตามงาน และพูดคุยกับผู้รับเหมาได้อย่างมั่นใจ รวมถึงลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วขั้นตอนการสร้างบ้านที่ได้มาตรฐาน จะแบ่งออกเป็น 10 ขั้นตอน ดังนี้
1. เตรียมพื้นที่ก่อสร้างและวางผังอาคาร
เมื่อมีแบบบ้านและตกลงทำสัญญากับบริษัทรับสร้างบ้านเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนแรกในการสร้างบ้านคือการเตรียมพื้นที่และวางผังอาคาร โดยทีมบริษัทรับสร้างบ้านจะลงพื้นที่หน้างานเพื่อตรวจสอบสภาพพื้นดิน ตรวจสอบระยะร่นให้ถูกต้องตามเทศบัญญัติ กำหนดจุดเก็บอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง รื้อถอนสิ่งกีดขวาง หลังจากนั้นจะวางผังอาคารโดยอ้างอิงจากแบบก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตแล้ว และกำหนดตำแหน่งเสาเข็มต่าง ๆ เพื่อเริ่มก่อสร้างตามแปลนที่ออกแบบไว้
2. การลงเสาเข็มและฐานราก
เสาเข็มถือเป็นหัวใจสำคัญของบ้านเพราะเป็นตัวรองรับน้ำหนักทั้งหมด การเลือกชนิดเสาเข็มขึ้นอยู่กับลักษณะดิน สภาพแวดล้อม และน้ำหนักตัวอาคาร ซึ่งเสาเข็มจะมี 2 แบบ คือ เสาเข็มตอก และเสาเข็มเจาะ
หลังจากลงเสาเข็มแล้ว จะทำการเทฐานรากและตอม่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อให้โครงสร้างทั้งหมดมีความแข็งแรงทนทาน งานในขั้นตอนนี้ต้องใช้วิศวกรคุมงานอย่างเข้มงวด เพราะหากทำผิดพลาดอาจส่งผลต่อความมั่นคงของบ้านทั้งหลัง
3. งานโครงสร้างชั้นล่างและชั้นบน
เมื่องานฐานรากเสร็จสมบูรณ์ จะเข้าสู่การก่อสร้างโครงสร้างหลัก ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับส่วนของคาน คานคอดิน เสา และพื้นของบ้าน โดยเริ่มจากชั้นล่างก่อน แล้วจึงทำต่อไปยังชั้นบนตามแบบอาคาร ขั้นตอนนี้ต้องใช้การเทคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งแต่ละส่วนต้องใช้เวลาให้คอนกรีตเซตตัว เพื่อให้ได้ความแข็งแรงตามมาตรฐาน
นอกจากนี้ยังมีส่วนของงานวางระบบสุขาภิบาล เช่น ถังเก็บน้ำใต้ดิน ระบบน้ำทิ้ง บ่อพัก ท่อประปา ซึ่งจะเป็นการขุดดินเพื่อวางระบบ และดำเนินการติดตั้งให้เสร็จสมบูรณ์
4. งานโครงสร้างบันไดและมุงหลังคา
เมื่อโครงสร้างชั้นล่างและชั้นบนแล้วเสร็จ ขั้นตอนต่อไปคืองานโครงสร้างบันได ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เชื่อมต่อพื้นที่ใช้สอยระหว่างชั้น ต้องคำนวณให้มีความสูงและความกว้างที่เหมาะสมเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ขณะเดียวกันโครงสร้างหลังคาก็จะถูกติดตั้งพร้อมมุงด้วยวัสดุตามที่เลือก เช่น กระเบื้อง คอนกรีต เมทัลชีท หรือวัสดุสมัยใหม่อื่น ๆ หลังคาที่ติดตั้งอย่างถูกต้องจะช่วยป้องกันน้ำรั่วซึม และเพิ่มอายุการใช้งานของบ้าน
5. การก่อผนัง วงกบ และงานระบบไฟ-ประปา
เมื่อโครงสร้างหลักเสร็จแล้ว จะเริ่มก่อผนังทั้งภายในและภายนอก โดยใช้วัสดุตามที่กำหนด เช่น อิฐมอญ อิฐบล็อก หรืออิฐมวลเบา ในระหว่างการก่อผนังจะติดตั้งวงกบประตู-หน้าต่างควบคู่กันไป เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่พอดี นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่ช่างระบบไฟฟ้าและประปาเข้ามาวางท่อ ร้อยสายไฟ และติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในผนัง ก่อนจะปิดทับและเดินงานต่อไป
6. งานฉาบผนังและติดตั้งฝ้าเพดาน
หลังจากก่อผนังเรียบร้อยแล้ว จะต้องฉาบด้วยปูนเพื่อให้ได้ผิวที่เรียบสวย และพร้อมสำหรับการตกแต่งต่อไป งานฉาบที่มีคุณภาพจะช่วยลดปัญหาผนังแตกร้าวในอนาคต ขณะเดียวกันจะติดตั้งโครงฝ้าและแผ่นฝ้าเพดาน ซึ่งมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น ฝ้าทีบาร์ ฝ้าฉาบเรียบ หรือฝ้ากันความร้อน การติดตั้งฝ้าเพดานยังช่วยซ่อนงานระบบไฟ และปรับบรรยากาศภายในบ้านให้ดูเรียบร้อยยิ่งขึ้น
7. งานติดตั้งประตู-หน้าต่าง และอุปกรณ์ตกแต่ง
ขั้นตอนนี้จะเป็นการติดตั้งประตูและหน้าต่างตามแบบที่เจ้าของบ้านเลือกไว้ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับประตูและหน้าต่าง เช่น มือจับ บานพับ รางเลื่อน กันชน นอกจากนี้ยังรวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งภายใน เช่น ราวบันได ราวระเบียง ถือเป็นขั้นตอนการสร้างบ้านที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม และบรรยากาศภายในบ้าน จึงต้องอาศัยความประณีตและความละเอียดของช่างร่วมด้วย
8. งานตกแต่งพื้นผิวและ Built-in
ขั้นตอนตกแต่งพื้นผิวและ Built-in เป็นช่วงที่บ้านเริ่มใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว งานหลักคือการปูพื้นด้วยวัสดุที่เจ้าของบ้านเลือก ทาสีภายนอกและภายใน นอกจากนี้ หากมีงาน Built-in เช่น ตู้เสื้อผ้า ครัว หรือชั้นวางบิวท์อิน จะดำเนินการในขั้นตอนนี้ เพื่อให้บ้านออกมาตามดีไซน์ที่ต้องการ
9. ตรวจสอบคุณภาพงานและแก้ไขจุดบกพร่อง
การตรวจสอบคุณภาพถือเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนสร้างบ้าน ก่อนส่งมอบบ้านจะต้องมีการตรวจสอบงานอย่างละเอียดทั้งด้านโครงสร้าง ความเรียบร้อยของงานระบบไฟฟ้า งานประปา และคุณภาพงานตกแต่ง เจ้าของบ้านอาจตรวจบ้านพร้อมกับวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกรายละเอียดเป็นไปตามมาตรฐาน หากพบข้อบกพร่อง เช่น รอยแตกร้าว สีไม่เรียบ ระบบไฟฟ้า หรือระบบน้ำมีปัญหา ต้องรีบแจ้งให้ผู้รับเหมาแก้ไขให้เสร็จเรียบร้อยก่อนส่งมอบบ้าน
10. ทำความสะอาดและเตรียมรับมอบบ้าน
เมื่อแก้ไขข้อบกพร่องเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนเก็บงาน ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกเพื่อให้บ้านพร้อมเข้าอยู่ เจ้าของบ้านควรตรวจเช็กอีกครั้งว่าอุปกรณ์และวัสดุทั้งหมดตรงตามที่ระบุไว้ในสัญญา หลังจากนั้นจึงลงนามรับมอบบ้านอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการสิ้นสุดขั้นตอนการสร้างบ้าน อย่างสมบูรณ์
อยากได้บ้านมาตรฐาน เลือกบริษัทสร้างบ้านและวัสดุให้ถูกต้อง
ความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนการสร้างบ้านอย่างละเอียด จะช่วยให้เจ้าของบ้านทราบถึงกระบวนการก่อสร้างบ้านมากขึ้น ช่วยให้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และพูดคุยกับผู้รับเหมาได้อย่างมั่นใจ ทั้งนี้ นอกจากจะรู้จัก 10 ขั้นตอนการสร้างบ้านเป็นอย่างดีแล้ว การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม เพราะบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้งานก่อสร้างดำเนินไปอย่างมีมาตรฐาน ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ขั้นตอนก่อสร้างบ้าน ไปจนถึงการส่งมอบบ้านที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านกรุงเทพและปริมณฑลที่พร้อมดูแลแบบครบวงจร ALVIS คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี ให้บริการรับสร้างบ้านแบบ One Stop Service ตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง และการดำเนินเรื่องเอกสารทางกฎหมาย ดำเนินการก่อสร้างโดยช่างและวิศวกรมากประสบการณ์
ALVIS มีขั้นตอนการสร้างบ้านที่ได้มาตรฐาน มีระบบติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างผ่านแอปพลิเคชันที่ตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังมีแบบบ้าน 2 ชั้น และแบบบ้าน 3 ชั้นให้เลือกหลากหลายสไตล์ มั่นใจสูงสุดด้วยบริการหลังการขาย และการรับประกันหลังส่งมอบบ้านที่ครบครัน ช่วยสร้างบ้านในฝันให้กลายเป็นจริงได้ตามที่ใจต้องการ
สนใจสร้างบ้าน หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ALVIS ได้ที่
- FB : ALVIS design & construction
- IG: alvisdecons
- Line : @alvisdecons
- Tel : ติดต่อสำนักงาน 02-491-6399
- ติดต่อบุคคล 064-494-4156
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ขั้นตอนการขออนุญาตสร้างบ้านมีอะไรบ้าง?
การขออนุญาตสร้างบ้านต้องยื่นเอกสารกับหน่วยงานท้องถิ่น เช่น อบต. เทศบาล หรือสำนักงานเขต โดยใช้โฉนดที่ดิน แบบแปลนบ้านที่สถาปนิกหรือวิศวกรลงนาม และสำเนาบัตรประชาชนเจ้าของที่ดิน จากนั้นรอการตรวจสอบ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงสามารถเริ่มก่อสร้างได้
เลือกผู้รับเหมาสร้างบ้านอย่างไรให้มั่นใจได้มาตรฐาน?
ควรเลือกผู้รับเหมาสร้างบ้านที่มีประสบการณ์ มีผลงานจริง มีความน่าเชื่อถือ มีสัญญาการจ้างงานชัดเจน สามารถตรวจสอบทีมงานและวิศวกรที่ดูแลขั้นตอนการสร้างบ้านได้อย่างโปร่งใส รวมถึงมีการรับประกันหลังส่งมอบบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านได้มาตรฐาน แข็งแรง และคุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุนไป



