
ทิศทางลมเข้าบ้าน เป็นปัจจัยที่ควรคำนึงเมื่อมีแผนสร้างบ้านหรือซื้อบ้าน เพราะประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนอบอ้าวเกือบตลอดทั้งปี แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวก็มีบางช่วงเวลาที่อากาศยังคงร้อนอยู่ หากออกแบบสร้างบ้านให้ถูกกับทิศลมที่พัดผ่าน และมีช่องเปิดระบายอากาศ ก็จะช่วยให้ภายในบ้านมีอากาศเย็นสบาย ไม่อบอ้าวหรือมีกลิ่นอับชื้น
ในบทความนี้จะมาพูดถึงความสำคัญของทิศทางบ้านกับทิศทางลม และแนะนำวิธีเลือกบ้านทิศไหนดีที่สุด ให้บ้านรับลมธรรมชาติ เย็นสบาย ปลอดโปร่งตลอดช่วงที่อาศัยในบ้าน
ทิศทางลมคืออะไร? และมีความสำคัญอย่างไรต่อบ้าน?

ทิศทางลม คือ กระแสอากาศที่เคลื่อนตัวพัดผ่านตามทิศทางต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละฤดูกาลลมจะพัดไปทิศต่างกัน ดังนั้นการตรวจสอบทิศทางลมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อออกแบบโครงสร้างบ้าน และการจัดวางแปลนเพื่อให้บ้านตั้งอยู่ในทิศที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
ประโยชน์ของการรู้ทิศทางลมเข้าบ้าน
- ช่วยให้อากาศภายในบ้านหมุนเวียน และถ่ายเทสะดวก เย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว
- ช่วยประหยัดพลังงาน เพราะเมื่ออากาศภายในบ้านเย็นสบาย ก็จะลดการเปิดเครื่องปรับอากาศลง
- ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค รวมถึงลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากความอับชื้นภายในบ้าน
- ช่วยยืดอายุการใช้งานของบ้าน เพราะการรู้ทิศลมและทิศฝนจะช่วยลดแรงปะทะจากลมและฝน
ทิศทางลมในแต่ละฤดูกาลของประเทศไทยเป็นอย่างไร?
ในแต่ละฤดูกาลของประเทศไทยจะมีทิศทางแดด ลม และฝนต่างกัน ดังนั้นก่อนสร้างบ้านหรือซื้อบ้านควรทำความเข้าใจสภาพอากาศ รวมถึงหลักการไหลเวียนของทิศทางลมในแต่ละฤดู ดังนี้
ฤดูร้อน
- ฤดูร้อนของประเทศไทยเริ่มต้นกลางเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม
- อากาศร้อนและแห้งแล้ง อุณหภูมิระหว่างวันอยู่ที่ประมาณ 35.0-39.9 องศาเซลเซียส
- ในวันที่อากาศร้อนมากเป็นพิเศษอาจมีอุณหภูมิมากกว่า 40.0 องศาเซลเซียส
- มีลมพัดจากทางทิศใต้ช่วยลดความร้อน
ฤดูฝน
- ฤดูฝนของประเทศไทยเริ่มต้นกลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม
- บางครั้งฤดูฝนอาจมาเร็วหรือช้ากว่ากำหนด 1-2 สัปดาห์
- ฝนเริ่มตกชุกทั่วประเทศไทยเมื่อลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมพื้นที่ และมีร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่าน
- ฝนเริ่มหยุดตกเมื่อมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมพื้นที่ แทนลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
ฤดูหนาว
- ฤดูหนาวของประเทศไทยเริ่มต้นกลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์
- ช่วงกลางเดือนตุลาคม 1-2 สัปดาห์อาจมีอากาศแปรปรวน
- มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมพื้นที่
- อากาศเย็น อุณหภูมิระหว่างวันระหว่าง 16.0-22.9 องศาเซลเซียส
- อากาศหนาว อุณหภูมิระหว่างวันระหว่าง 8.0-15.9 องศาเซลเซียส
- อากาศหนาวจัด อุณหภูมิระหว่างวันระหว่างต่ำกว่า 8.0 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ ถ้าสร้างบ้านเสร็จแล้วต้องการจัดพิธีขึ้นบ้านใหม่ แนะนำให้จัดพิธีในช่วงที่มีลมเย็นพัดผ่านอย่างช่วงต้นปีถึงกลางปี แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะควรจัดพิธียังไง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : วิธีขึ้นบ้านใหม่ด้วยตัวเอง
ทิศทางบ้านกับทิศทางลม แต่ละทิศมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร?
การรู้ทิศทางแดดและทิศทางลมเข้าบ้านเป็นผลดีต่อการออกแบบบ้านสไตล์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบบ้าน 2 ชั้น แบบบ้าน 3 ชั้น หรือแบบบ้านอื่น ๆ เพราะสามารถแต่งเติมบ้านให้รองรับกับทิศทางแดดและทิศลมที่พัดจากแต่ละทิศได้อย่างเหมาะสม มาดูกันว่าควรสร้างบ้านหันหน้าทิศไหนให้บ้านไม่ร้อน
บ้านหันหน้าทิศเหนือ
ทิศเหนือเป็นทิศที่มีโอกาสได้รับลมหนาวพัดเข้าบ้านในช่วงฤดูหนาวสูง แต่เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น จึงไม่ได้รับอิทธิพลจากลมหนาวมากนัก ทำให้อากาศไม่ได้หนาวเย็นมากจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นทิศที่บ้านจะไม่ถูกแสงแดดส่องโดยตรงตลอดทั้งปี ส่งผลให้บ้านที่หันหน้าทิศเหนือมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน
บ้านหันหน้าทิศตะวันออก
ทิศตะวันออกเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ทำให้อากาศช่วงเช้าไม่ร้อนเกินไป แต่อากาศจะยิ่งร้อนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข้าสู่ช่วงเที่ยงวัน ในช่วงบ่ายบ้านจะหันหลังให้กับดวงอาทิตย์ ทำให้ภายในบ้านดูสงบ ร่มรื่น
ทั้งนี้ บ้านที่หันไปทางทิศตะวันออกจะไม่ค่อยมีลมพัดผ่านในช่วงฤดูร้อน ทำให้บ้านมีอากาศอบอ้าว แต่ในช่วงฤดูหนาวจะได้รับอากาศเย็นสบายจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
บ้านหันหน้าทิศใต้
ทิศใต้เป็นทิศที่มีลมพัดผ่านเข้าบ้านตลอด ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม บ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้จะได้รับแสงแดดเกือบตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันถึงช่วงบ่ายแก่ ซึ่งอาจทำให้บ้านสะสมความร้อนได้ ดังนั้นจึงควรหาชายคาที่ยื่นยาวปิดหน้าบ้าน หรือปลูกต้นไม้เพิ่มเติมเพื่อช่วยบังแดด และลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน
บ้านหันหน้าทิศตะวันตก
ทิศตะวันตกเป็นทิศที่ไม่โดนแสงแดดช่วงเช้า ในช่วงเช้าจึงมีอากาศเย็นสบาย แต่ทิศตะวันตกเป็นทิศที่แดดส่องหน้าบ้านช่วงบ่ายโดยตรง ภายในบ้านช่วงบ่ายจึงมีอากาศร้อนกว่าบ้านที่หันไปทางทิศอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ทิศตะวันตกเป็นทิศที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้บางส่วน ทำให้มีลมช่วยพัดระบายความร้อนภายในบ้านออกไปได้เล็กน้อย
ออกแบบบ้านอย่างไร? ให้รับลมและระบายอากาศได้ดี
เมื่อรู้ว่าหน้าบ้านควรหันทิศไหนถึงจะรับลมเย็นแล้ว ในระหว่างขั้นตอนการสร้างบ้านจะต้องคำนึงถึงหลักการระบายอากาศด้วย เพื่อเปิดรับลมธรรมชาติให้ไหลเวียนเข้าตัวบ้าน และถ่ายเทอากาศออกจากบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้อากาศภายในบ้านเย็นโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศมากนัก
หลักการระบายอากาศ (Ventilation)
การระบายอากาศเป็นการเคลื่อนย้ายอากาศให้พัดไปยังทิศทางที่ต้องการ โดยควรออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลมเข้าบ้าน เพื่อให้ในบ้านมีอากาศหมุนเวียน ลดความร้อน ความชื้น และกลิ่นไม่พึงประสงค์ การระบายอากาศแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- การระบายอากาศแบบธรรมชาติ (Natural Ventilation) : การใช้ธรรมชาติให้ในสองบริเวณเกิดความกดดันในบรรยากาศต่างกัน ซึ่งอากาศจะพัดจากที่ที่มีความกดดันบรรยากาศสูง ไปยังที่ที่มีความกดดันบรรยากาศต่ำ โดยออกแบบโครงสร้างบ้านให้มีช่องเปิด เช่น หน้าต่างหรือช่องเปิดรับลม ให้อากาศหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การระบายอากาศแบบพึ่งพาจักรกล (Mechanism Ventilation) : การใช้อุปกรณ์เสริม เช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ มาช่วยทำให้มีอากาศหมุนเวียนภายในบ้าน มักใช้ในกรณีที่บ้านมีช่องเปิดรับอากาศไม่พอ
ช่องเปิด (Void) และการวางตำแหน่งหน้าต่าง
ช่องเปิด เป็นช่องที่มีไว้เพื่อรับลมเข้าบ้านและระบายอากาศออกนอกบ้าน มักออกแบบเป็นประตูหรือหน้าต่าง เพื่อให้สามารถเปิด-ปิดรับลมในช่วงเวลาที่ต้องการ การสร้างช่องเปิดจะต้องคำนึงถึงทิศทางลมเข้าบ้าน ทิศทางลมออกบ้าน รวมถึงขนาดและจำนวนของช่องเปิด เพื่อให้รับลมเข้าและระบายลมออกได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ หลายคนมักเข้าใจว่าควรสร้างบ้านให้มีช่องเปิดเพียงช่องเดียว ให้ในบ้านมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน แต่ที่จริงแล้วการสร้างบ้านให้มีช่องเปิดช่องเดียวทำให้ลมเข้าบ้านน้อยมาก และยังทำให้อากาศไหลเวียนได้ไม่ดีด้วย ถ้าอยากรู้ว่าควรสร้างช่องเปิดแบบไหนให้ลมสามารถไหลเวียนได้ดีที่สุด มาดูพร้อมกันได้เลย
ขนาดของช่องลม
- ช่องเปิดลมเล็ก : ลมเข้าบ้านได้ดี แต่ปริมาณลมน้อย
- ช่องเปิดลมใหญ่ : ลมเข้าบ้านเอื่อย แต่ปริมาณลมเยอะ
จำนวนช่องลม
- ช่องเปิดด้านเดียว : ลมเข้าบ้านน้อย
- ช่องเปิดสองด้าน ขนาดใกล้เคียงกัน : ลมเข้าบ้านได้ดี อากาศไหลเวียนทั่วถึง
- ช่องเปิดสองด้าน ช่องลมเข้าเล็ก-ช่องลมออกใหญ่ : ลมเข้าบ้านแรง แต่อากาศไหลเวียนน้อย
- ช่องเปิดสองด้าน ช่องลมเข้าใหญ่-ช่องลมออกเล็ก : ลมเข้าบ้านเอื่อย แต่อากาศไหลเวียนน้อย
ตำแหน่งช่องลม
- ช่องเปิดสองด้าน ติดตั้งเยื้องกัน : ลมเข้าบ้านได้ดี อากาศกระจายตัวและไหลเวียนได้ดี
- ช่องเปิดสองด้าน ติดตั้งตั้งฉากกัน : ลมเข้าบ้านได้ดี แต่อากาศไหลเวียนได้น้อยกว่า
ข้อดีและข้อเสียของการวางบ้านตามทิศทางลม
ระหว่างออกแบบบ้าน ควรดูว่าบ้านหันหน้าทิศไหนดีที่สุด เพราะทิศลมส่งผลต่ออุณหภูมิและการถ่ายเทอากาศภายในบ้าน มาดูกันว่าข้อดีของการสร้างบ้านที่รับลมถูกทิศ กับข้อเสียของการสร้างบ้านที่รับลมผิดทิศมีอะไรบ้าง
ข้อดีของบ้านที่รับลมได้ถูกทิศ
การตั้งบ้านให้รับลมถูกทิศจะช่วยให้บ้านเย็นสบาย และช่วยประหยัดพลังงาน เพราะลมธรรมชาติจะพัดเข้ามาในบ้านได้สะดวก ทำให้ภายในบ้านมีลมหมุนเวียน ไม่มีความชื้นสะสม จึงไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา และยังช่วยให้อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านมีอายุการใช้งานยาวขึ้น เพราะลดการปะทะจากแสงแดดและฝนโดยตรง
ข้อเสียของบ้านที่รับลมผิดทิศ
หากบ้านหันหน้าไปทางทิศที่ลมมรสุมพัดผ่าน เมื่อถึงช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกหนักหรือมีพายุเข้า จะทำให้ทั้งภายนอกบ้านและภายในบ้านได้รับความเสียหายจากน้ำฝนและแรงลมโดยตรง ส่งผลให้ผนัง เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ในบ้านมีความชื้นสะสมจนเสื่อมสภาพ ผุพัง หรือเกิดเชื้อราสะสมได้
ตรวจทิศทางลมเข้าบ้านก่อนสร้างบ้าน ให้ลมพัดเย็นสบายตลอดปีกับ ALVIS
ทิศทางลมเข้าบ้าน เป็นปัจจัยที่ควรคำนึงเมื่อออกแบบสร้างบ้าน เพราะทิศทางลมจะส่งผลต่อความรู้สึกเวลาอาศัยอยู่ในบ้าน ถ้าสร้างบ้านหันหน้าไปทางทิศที่มีลมพัดผ่าน และสร้างช่องเปิดระบายลมอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ภายในบ้านปลอดโปร่ง สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายอารมณ์ แต่ถ้าสร้างบ้านหันหน้าไปทางทิศที่ไม่มีลมพัดผ่านก็จะทำให้บ้านอบอ้าว และอาจทำให้มีความชื้นสะสมจนรู้สึกไม่สบายตัว
สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบ้านให้น่าอยู่อาศัย มีบรรยากาศร่มรื่น เย็นสบาย แต่ไม่รู้ว่าหน้าบ้านควรหันทิศไหนดี ALVIS ให้บริการออกแบบและรับสร้างบ้านครบวงจร โดยมีทีมงานดูแลใกล้ชิดตลอดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ทิศลม ทิศแดด ออกแบบบ้านสไตล์ต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับหลักการระบายอากาศก่อนดำเนินก่อสร้างตามแบบแผน พร้อมดูแลทางด้านกฎหมายตลอดกระบวนการ เพื่อให้บ้านหลังใหม่ของคุณพร้อมอยู่อาศัย และเปิดรับลมได้อย่างเต็มที่
ช่องทางการติดต่อ
- FB : ALVIS design & construction
- IG: alvisdecons
- Line : @alvisdecons
- ติดต่อบุคคล 064-494-4156
- Tel : ติดต่อสำนักงาน 02-491-6399
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ช่องเปิดแบบไหน ลมเข้าได้ดีสุด?
ช่องเปิดที่มีความสอดคล้องกับทิศทางลมเข้าบ้าน มีขนาดและลักษณะของช่องลมที่เหมาะสม เป็นช่องลมที่ช่วยให้ลมเข้าบ้านได้ดีที่สุด โดยแนะนำใช้หน้าต่างหรือประตูที่เปิดกว้างได้อย่างเต็มที่ ไม่มีบานเกล็ดหรือสิ่งกีดขวางกั้นไว้ เพื่อให้ลมธรรมชาติสามารถพัดเข้าบ้านได้อย่างเต็มที่
ตกแต่งบ้านให้ลมเข้าด้วยผนังแบบไหนดี?
ตกแต่งบ้านด้วยผนังที่ช่องเปิดอย่างบานกระจกหรือประตู ให้ลมสามารถเข้าและออกได้สะดวก โดยอาจจะเลือกทาผนังสีโทนอ่อน ๆ เช่น สีขาว สีฟ้า หรืออาจใช้อิฐมวลเบาในการก่อสร้างบ้าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก ลดการสะสมความร้อนภายในบ้าน



